International Baccalaureate (IB)
International Baccalaureate หรือ IB ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้มีระบบการศึกษาที่เป็นที่ยอมรับมหาวิยาลัยจากทั่วโลก เพื่อรองรับนักเรียนที่มีความจำเป็นในการย้ายที่เรียนจากประเทศสู่อีกประเทศ ซึ่งเป็นหลักสูตรที่คุ้นหูสำหรับนักศึกษานานาชาติ ซึ่งบางมหาวิทยาลัยก็ต้องการคะแนนสอบวัดระดับหลักสูตร IB เช่นกัน
หลักสูตร IB ถูกใช้ในประเทศเยอรมนีมาเป็นเวลายาวนานกว่า 50 ปี โดยมีชื่อเต็มคือ International Baccalaureate Programme เป็นหลักสูตรที่มีทั้งหมด 3 ระดับ ถูกจัดทำขึ้นโดย International Baccalaureate Organization (IBO) ปัจจุบันมีการใช้อย่างแพร่หลายกว่า 156 ประเทศทั่วโลก
IB จึงเป็นหลักสูตรการสอบที่ค่อนข้างพิเศษเนื่องจากครอบคลุมวัฒนธรรมต่างๆและนักศึกษาต้องลงมือทำเพื่อให้เติบโตในด้านอารมณ์ การสังคม เป็นต้น เนื้อหาวิชาในการเรียนจึงมีค่อนข้างหลากหลาย เพื่อให้นักศึกษาพร้อมที่เข้าเรียนไม่ว่าในประเทศไหนก็ตาม
หลักสูตร IB สามารถแยกระดับการศึกษาได้ทั้งหมด 3 ระดับ คือ
1. ระดับต้น (IB Primary Years Programme หรือ PYP) สำหรับนักเรียนอายุ 3 – 12 ปี
2. ระดับกลาง (IB Middle Years Progamme หรือ MYP) สำหรับนักเรียนอายุ 11 – 16 ปี
3. ระดับประกาศนียบัตรนานาชาติ (IB Diploma Programme หรือ IBDP) สำหรับนักเรียนอายุ 16 -19 ปี
หากเราพูดถึงการสอบ IB คนส่วนใหญ่มักจะหมายถึงการสอบระดับที่ 3 หรือ IBDP ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อระหว่างการเรียนระดับมัธยมปลายสู่ช่วงการเข้าเรียนระดับปริญญาตรี เป็นเหตุผลที่ทำให้ระดับที่ 3 เป็นที่ได้รับความสนใจค่อนข้างมากสำหรับนักศึกษาที่ต้องการจะไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ รวมไปถึงประเทศเยอรมนีด้วย
หลักสูตร IBDP ประกอบไปด้วยทั้งหมด 6 กลุ่มวิชา ได้แก่
1. ภาษาและวรรณกรรม เพื่อศึกษาความซับซ้อนและทำความเข้าใจกับภาษาในบริบทต่างๆ
2. ทักษะการใช้ภาษา เพื่อใช้ในการศึกษาและทำความเข้าใจภาษาต่างๆ เช่น ภาษาฝรั่งเศษ, ภาษาสเปน, ภาษาละติน, ภาษากรีก รวมถึงการเข้าใจวัฒนธรรมต่างผ่านทางภาษา
3. ปักเจกและสังคม เพื่อศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องทางธรรมชาติและซึมซับเรื่องราวต่างๆในสังคมนั้นๆ รวมถึงการฝึกวิเคราะห์ ผ่านกลุ่มวิชาจำพวก จิตวิทยา, ปรัชญา และ เศรษฐศาสตร์
4.วิทยาศาสตร์ มีรายวิชาดังต่อไปนี้ ชีววิทยา, วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, เคมี, ฟิสิกส์, วิทยาศาสตร์การกีฬาละสุขภาพ
5.คณิตศาสตร์ มีรายวิชาดังต่อไปนี้ วิธีการทางคณิตศาสตร์, คณิตศาสตร์ระดับกลาง, คณิตศาสตร์ระดับสูง
6. ศิลปะ นักศึกษาจะได้เรียนรู้ศิลปะหลายแขนงและเชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมของสาขานั้นๆ เช่น เต้นรำ, ดนตรี, ละครเวที, ทัศนศิลป์
หากผู้เรียนต้องการที่จะผ่านหลักสูตรจากสอบแบบ IB Diploma Programme ผู้เรียนจะต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 6 วิชา โดยแบ่งได้ดังนี้
- ต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 1 วิชาจากกลุ่มวิชา 1, 2, 3, 4, 5
- ต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 1 วิชาจากกลุ่มวิชา 1, 2, 3, 4, 6
- ต้องมีอย่างน้อย 3 วิชาที่ผู้สอบต้องสอบแบบ Higher Level (HL) และที่เหลือสามารถเป็นการสอบแบบ Standard Level (SL) ได้
- (โดยการเรียนแบบ HL จะใช้เวลาเรียนอยู่ที่ 240 ชั่วโมง ส่วนการเรียนแบบ SL จะใช้เวลาเรียนอยู่ที่ 150 ชั่วโมง)
เงื่อนไขในการผ่านหลักสูตร IB
1. ภาษาและวรรณกรรม เพื่อศึกษาความซับซ้อนและทำความเข้าใจกับภาษาในบริบทต่างๆ
2. ทักษะการใช้ภาษา เพื่อใช้ในการศึกษาและทำความเข้าใจภาษาต่างๆ เช่น ภาษาฝรั่งเศษ, ภาษาสเปน, ภาษาละติน, ภาษากรีก รวมถึงการเข้าใจวัฒนธรรมต่างผ่านทางภาษา
3. ปักเจกและสังคม เพื่อศึกษาทฤษฎีที่เกี่ยวข้องทางธรรมชาติและซึมซับเรื่องราวต่างๆในสังคมนั้นๆ รวมถึงการฝึกวิเคราะห์ ผ่านกลุ่มวิชาจำพวก จิตวิทยา, ปรัชญา และ เศรษฐศาสตร์
4.วิทยาศาสตร์ มีรายวิชาดังต่อไปนี้ ชีววิทยา, วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์, เคมี, ฟิสิกส์, วิทยาศาสตร์การกีฬาละสุขภาพ
5.คณิตศาสตร์ มีรายวิชาดังต่อไปนี้ วิธีการทางคณิตศาสตร์, คณิตศาสตร์ระดับกลาง, คณิตศาสตร์ระดับสูง
6. ศิลปะ นักศึกษาจะได้เรียนรู้ศิลปะหลายแขนงและเชื่อมโยงไปถึงวัฒนธรรมของสาขานั้นๆ เช่น เต้นรำ, ดนตรี, ละครเวที, ทัศนศิลป์
หากผู้เรียนต้องการที่จะผ่านหลักสูตรจากสอบแบบ IB Diploma Programme ผู้เรียนจะต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 6 วิชา โดยแบ่งได้ดังนี้
- ต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 1 วิชาจากกลุ่มวิชา 1, 2, 3, 4, 5
- ต้องสอบให้ผ่านอย่างน้อย 1 วิชาจากกลุ่มวิชา 1, 2, 3, 4, 6
- ต้องมีอย่างน้อย 3 วิชาที่ผู้สอบต้องสอบแบบ Higher Level (HL) และที่เหลือสามารถเป็นการสอบแบบ Standard Level (SL) ได้
- (โดยการเรียนแบบ HL จะใช้เวลาเรียนอยู่ที่ 240 ชั่วโมง ส่วนการเรียนแบบ SL จะใช้เวลาเรียนอยู่ที่ 150 ชั่วโมง)
หลักสูตร IB ยังมีเงื่อนไขอีก 3 ข้อที่ผู้เรียนต้องเรียนให้ผ่าน คือ
1. Theory of Knowledge (ToK) คือ วิชาที่สร้างขึ้นเพื่อให้ผู้เรียนได้สะท้อนถึง ความเข้าใจ, อารมณ์, ภาษา เป็นต้น ด้วยวิธีการทดสอบวิธีการศึกษาการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยผู้เรียนจะต้องเรียนอย่างน้อย 100 ชั่วโมง และเขียน Essay ได้ไม่ต่ำกว่า 1,200 – 1,600 คำ รวมไปถึงผู้เรียนต้องศึกษาเรื่องเกี่ยวกับวัฒนธรรมของตนเองและวัฒนธรรมโลก
2. Extended Essay (EE) ผู้เรียนจะต้องเขียน Essay ได้อย่างน้อย 4,000 คำ ในเนื้อเรื่องที่ผู้เรียนสนใจ
3. Creativity, Action, Service (CAS) ผู้เรียนจะต้องหากิจกรรมนอกโรงเรียนและทำกิจกรรมไม่ต่ำกว่า 50 ชั่วโมงในแต่ละกิจกรรม โดยสามารถแบ่งกิจกรรมได้ดังนี้
- Creativity คือ กิจกรรมที่ผู้เรียนต้องใช้ศิลปะและความคิดสร้างสรรค์ที่หลากหลายในการสร้างกิจกรรมใหม่ขึ้นมา
- Action คือ กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเล่นกีฬา
- Service คือ กิจกรรมที่ทำเพื่อสังคมหรือมีส่วนร่วมกับกิจกรรมเพื่อสังคม
ความแตกแต่งระหว่างหลักสูตรทั่วไปกับหลักสูตร IB
จากข้อมูลข้างต้นจะทำให้เห็นว่าหลักสูตร IB ค่อนข้างมีความแตกต่างจากหลักสูตรอื่นๆ และนี้คือความแตกต่างระหว่างหลักสูตรทั่วไปกับหลักสูตร IB
- พัฒนาเรื่องภาษาให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ภาษาที่หลากหลาย
- สนับสนุนให้ผู้เรียนในทุกช่วงอายุได้เรียนรู้ถึงบริบททั้งในระดับชุมชนและระดับโลก
- มีการประยุกต์ใช้ข้อมูลในการศึกษาจากกลุ่มวิจัยและจากโรงเรียนในเครือขายทั่วโลก
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนในทุกช่วงวัยคิดเชิงวิพากษ์
ในสังคมยุคปัจจุบันผู้เรียนต้องเปลี่ยนบทบาทหน้าที่จากผู้บริโภคเป็นผู้คิดริเริ่มสร้างสรรค์กิจกรรมหรือการเรียน จึงทำให้หลักสูตร IB มีความสอดคล้องอย่างมากในการเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาต่างๆ รู้จักการวางแผน และ การลงมือปฏิบัติจริงด้วยตนเอง
- เรียนรู้ทางวัฒนธรรมได้มากขึ้นจากภาษา
- ช่วยในเรื่องปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้อื่นในโลกที่มีการพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
- ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักการใช้ความคิดสร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ และ ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาการเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
- เป็นอีก 1 หลักสูตรที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เตรียมตัวในการเข้าสู่การเรียนในระดับมหาวิทยาลัยได้
-
Call Us
097-131-7928 -
Business hours
Mon - Sun 9 AM - 6 PM -
Location
Bangwaek 79, Bangwaek road